ไม่ผิดหวังจริง ๆ สำหรับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ทุกครั้งที่มีการแถลงข่าว หรือไปลงพื้นที่ ที่ไหนจะมีพร็อพ หรืออุปกรณ์ไปด้วยทุกครั้ง ครั้งนี้ลากกระเป๋าเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ลากจากประตูทางเข้าเดินเข้ามาด้านในเลย และพูดแซวด้วยว่า “ไม่เห็นมีคนมาช่วยลากกระเป๋าเลย ต้องมีคนมาช่วยสิ”

จุดประสงค์ของนายชูวิทย์ คือ การมายื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคำพูดจาก เกมสล็อตมาใหม่

“บิ๊กโจ๊ก” มั่นใจพยานหลักฐานคดี "แอม" เพียงพอ จ่อขยายผลไซยาไนด์

กองทัพปัดตอบกรอบเวลา สอบทหารยศนายพล เซ็กซ์ซาดิสต์

ให้ตรวจสอบคลิปวิดีโอที่มีตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย ช่วยยกกระเป๋าเดินทางให้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นายชูวิทย์ มองว่า เป็นความเหลื่อมล้ำ เพราะถ้าจะอำนวยความสะดวก หรือช่วยเหลือ ก็ต้องทำให้เท่าเทียมกับประชาชนหรือนักท่องเที่ยวคนอื่นด้วย จึงขอให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด 4 ประเด็น

ประเด็นแรกตรวจสอบว่า ตำรวจทั้ง 2 นายในคลิปวีดิโออยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนคนอื่น ๆ นอกจากทนายตั้ม ด้วยหรือไม่ และหากตำรวจทั้ง 2 นาย ไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ การอำนวยความสะดวกให้ทนายตั้มได้รับคำสั่งมาจากผู้บังคับบัญชาคนไหน

และทุกครั้งที่ทนายตั้ม เดินทางกลับเข้าประเทศไทย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ตรวจสอบสัมภาระ ว่า มีการนำเข้าสินค้าที่ต้องสำแดงภาษี อย่างเช่น นาฬิกา กระเป๋า เสื้อผ้า หรือของอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ เพราะทนายตั้ม มีกระเป๋าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ รวมถึงนาฬิกาหรูจำนวนมาก ซึ่งการต้องการให้ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจน และการบริการของตำรวจต้องไม่ให้บริการเฉพาะ VVIP เท่านั้น

“ประเทศไทยปี 2566 จะมาต้อนรับ VIP ยกมือไหว้กันเป็นแถว มีตำรวจมาจอดรถ มีตำรวจเข็นกระเป๋าให้อันนี้ไม่ใช่หน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว อันนี้ต้องพูดชัดเจนอยู่แล้วว่ามันไม่ใช่ แต่เดี๋ยวคุณจะหาว่าผมหาเรื่อง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แสดงถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมว่าถ้ามีสถานะใกล้ชิดผู้ใหญ่ ก็ผู้ใหญ่ที่ไหน ก็ผู้ใหญ่ในนี้แหละครับ เพราะถ้าไม่เป็นผู้ใหญ่ในนี้ก็ไม่มีทางที่จะไปทำอย่างนั้นได้”

ในระหว่างที่ นายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้น พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ก็เดินทางมาประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพอดี ซึ่งตอนนั้น ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็น พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์เหลือบมอง นายชูวิทย์ แต่ไม่ได้ทักทายอะไร และรีบเดินเข้าไปในห้องประชุม

ส่วนคนที่มารับหนังสือกับ นายชูวิทย์ คือ พลตำรวจโทอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมระบุว่า ผบ.ตร. สั่งการด่วนให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยละเอียด หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังสั่งให้ทบทวนการดูแลการอำนวยความสะดวกประชาชนของเจ้าหน้าที่ และกำหนดขอบเขตการทำงานให้ชัดเจน ไม่เลือกปฏิบัติหรือเกินความเหมาะสมเพื่อให้มีมาตรฐานการปฏิบัติงานเป็นมาตรฐานเดียวกัน และไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ